เมนู

5. มาตุปุตติกสูตร


ว่าด้วยบ่วงแห่งมาร 5 ประการ


[55] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน
อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ใกล้พระนครสาวัตถี ก็สมัยนั้นแล มารดา
และบุตรสองคน คือ ภิกษุและภิกษุณี เข้าจำพรรษาในพระนครสาวัตถี
คนทั้งสองนั้นเป็นผู้ใคร่เห็นกันและกันเนือง ๆ แม้มารดาก็เป็นผู้ใคร่เห็นบุตร
เนือง ๆ แม้บุตรก็เป็นผู้ใคร่เห็นมารดาเนือง ๆ เพราะการเห็นกันเนือง ๆ
แห่งคนทั้งสองนั้น จึงมีความคลุกคลีกัน เมื่อมีความคลุกคลีกัน จึงมีการ
วิสาสะคุ้นเคยกัน เมื่อมีการวิสาสะกัน จึงมีช่อง คนทั้งสองนั้นมีจิตได้ช่อง
ไม่บอกคืนสิกขา ไม่ทำให้แจ้งซึ่งความทุรพล ได้เสพเมถุนธรรม ครั้งนั้นแล
ภิกษุเป็นอันมาก เข้าไปเฝ้าพระ.ผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ ถวายบังคมแล้ว
นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้กราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
มารดาและบุตรสองคน คือ ภิกษุและภิกษุณี เข้าจำพรรษาในพระนครสาวัตถี
นี้ คนสองคนนั้นเป็นผู้ใคร่เห็นกันและกันเนือง ๆ แม้มารดาก็เป็นผู้ใคร่เห็น
บุตรเนือง ๆ แม้บุตรก็เป็นผู้ใคร่เห็นมารดาเนือง ๆ เพราะการเห็นกันเนือง ๆ
แห่งคนทั้งสองนั้น จึงมีความคลุกคลีกัน เมื่อมีความคลุกคลีกัน จึงมีการ
วิสาสะกัน เมื่อมีการวิสาสะกัน จึงมีช่อง คนทั้งสองนั้นมีจิตได้ช่อง ไม่บอก
คืนสิกขา ไม่ทำให้แจ้งซึ่งความทุรพล ได้เสพเมถุนธรรม.
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย โมฆบุรุษนั้นย่อม
สำคัญหรือหนอว่า มารดาย่อมไม่กำหนัดในบุตร ก็หรือบุตรย่อมไม่กำหนัด
ในมารดา ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราย่อมไม่พิจารณาเห็นรูปอื่นแม้รูปเดียว